พูม่า (PUMA) เป็นหนึ่งในผู้นำของบริษัทผลิตรองเท้าและเสื้อผ้ากีฬาของโลก ประวัติศาสตร์ของ PUMA เริ่มต้นในปี 1924 เมื่อชาวเยอรมันชื่อ Rudolph Dassler ก่อตั้งบริษัทผลิตรองเท้ากับน้องชายของเขา Adolf (ผู้ก่อตั้ง Adidas) ชื่อว่า Gebrüder Dassler Schuhfabrik (แปลเป็นภาษาอังกฤษว่า Dassler Brothers Shoe Factory) โดยผลิตรองเท้าแตะใส่ในห้อง (Slippers Shoes) และรองเท้าใส่นอกบ้าน (Outdoor Shoes) เขาเห็นถึงความต้องการรองเท้ากีฬาในตลาด แม้อยู่ในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำในช่วงปลายของทศวรรษที่ 20
ในมหกรรมกีฬาโอลิมปิกในปี 1928 พวกเขาได้รับความสนใจอย่างมากเพราะเกือบครึ่งของนักกีฬาที่เข้าร่วมการแข่งขัน ใส่รองเท้าของสองพี่น้อง Dassler ธุรกิจของครอบครัว Dassler เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ ในทศวรรษที่ 30 และยิ่งได้รับความนิยมอย่างมากในปี 1936 เพราะ Jessie Owens ที่ใส่รองเท้าของพวกเขาได้ 4 เหรียญทองโอลิมปิก
ทุกอย่างเป็นไปด้วยดี จนกระทั่งในปี 1948 เกิดความขัดแย้งอย่างรุนแรงในครอบครัว Dassler ทำให้สองพี่น้อง Rudolph และ Adolf แยกบริษัทออกเป็น 2 บริษัท โดย Rudolph ตั้งบริษัท Puma Schuhfabrik Rudolf Dassler ปัจจุบันรู้จักกันในชื่อ PUMA เดิม Rudolph ใช้ชื่อบริษัทใหม่ของเขาว่า “Ruda” มาจากอักษรสองตัวแรกของชื่อและนามสกุล Rudolf Dassler แต่หลักจากนั้นไม่นานถูกเปลี่ยนเป็นชื่อปัจจุบันคือ PUMA ในขณะที่ Adolf ตั้งบริษัท Adidas ซึ่งมาจากชื่อเล่น “Adi” รวมกับตัวอักษร 3 ตัวแรกของนามสกุล “Das” ปัจจุบันทั้งสองบริษัทตั้งอยู่ในเมือง Herzogenaurach ประเทศเยอรมนี
PUMA เติบโตอยู่ต่อเนื้อภายใต้การนำของ Rudolph เขาคนแรกที่ได้นำนวัตกรรมใหม่หลายอย่างมาใช้กับรองเท้า PUMA เช่น การใช้พื้นรองเท้าวัสดุสังเคราะห์วัลคาไน (vulcanized soles) สำหรับรองเท้าฟุตบอล, การออกแบบรูปทรงของพื้นรองเท้าให้มีลักษณะเฉพาะ สำหรับรองเท้าวิ่ง ทำให้เพิ่มการเคลื่อนไหวที่เป็นธรรมชาติมากขึ้น, การใช้สายรัดที่เรียกว่า Velcro Strap สำหรับรองเท้ากีฬา และการแทนที่เชือกผูกรองเท้าแบบเดิมด้วย แผงยึดรองเท้าที่เรียกว่า Puma Disc System ในปี 197